เมนู

4. อนิจจสูตรที่ 2



ว่าด้วยความเป็นไตรลักษณ์แห่งขันธ์ 5



[93] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใด
เป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงเห็นสิ่งนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามความ
เป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตน
ของเรา เวทนาไม่เที่ยง... สัญญาไม่เที่ยง... สังขารไม่เที่ยง... วิญญาณ
ไม่เที่ยง สิ่งไดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงเห็นสิ่งนั้นด้วยปัญญาอันชอบตาม
ความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่
ตัวตนของเรา เมื่อเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้
ทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องต้น (อดีต) ย่อมไม่มี เมื่อทิฏฐิเป็นไปตาม
ส่วนเบื้องต้นไม่มี ทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องปลาย (อนาคต) ย่อมไม่มี
เมื่อทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องปลายไม่มีความยึดมั่นอย่างแรงกล้า
ย่อมไม่มี เมื่อความยึดมั่นอย่างแรงกล้าไม่มี จิตย่อมคลายกำหนัดในรูป
เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย
เพราะไม่ถือมั่น เพราะหลุดพ้น จิตจึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่ จึงยินดี
พร้อม เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตน
เท่านั้น ภิกษุนั้นย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่
ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ อนิจจสูตรที่ 2

อรรถกถาอนิจจสูตรที่ 2



ในอนิจจสูตรที่ 2 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้
บทว่า ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐิโย ความว่า ทิฏฐิ 18 ที่ไปตามที่สุด
เบื้องต้นไม่มี. บทว่า อปรนฺตานุทิฏฺฐิโย ความว่า ทิฏฐิ 44 ที่ไปตามที่สุด
เบื้องปลายไม่มี. บทว่า ถามโส ปรามาโส ความว่า ความแรงของทิฏฐิ
และความยึดมั่นของทิฏฐิไม่มี. ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ เป็นอันทรง
แสดงปฐมมรรคแล้ว.
บัดนี้ เพื่อจะทรงแสดงมรรค 3 และผล 3 พร้อมด้วยวิปัสสนา
จึงเริ่มคำมีอาทิว่า รูปสฺมึ ดังนี้. อีกอย่างหนึ่ง ขึ้นชื่อว่าทิฏฐิทั้งหลาย
ละได้ด้วยวิปัสสนานั่นเอง แต่คำนี้ ท่านเริ่มเพื่อแสดงมรรค 4 พร้อม
ด้วยวิปัสสนาชั้นสูง
จบ อรรถกถาอนิจจสูตรที่ 2

5. สมนุปัสสนาสูตร



ว่าด้วยการพิจารณาเห็นอุปาทานขันธ์ 5



[94] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะหรือ
พราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เมื่อพิจารณาเห็น ย่อมพิจารณาเห็นตน
เป็นหลายวิธี สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมพิจารณาเห็น
อุปาทานขันธ์ทั้ง 5 หรือแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง อุปาทานขันธ์ 5 เป็นไฉน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนไม่ได้สดับแล้วในโลกนี้ ไม่ได้เห็น